ท่อโค้ง (Elbow หรือ Bend)
ท่อโค้งเป็นท่อที่ถูกออกแบบให้มีการโค้งงอที่มุมต่าง ๆ เช่น 45 องศา หรือ 90 องศา เพื่อให้การเชื่อมต่อท่อสามารถติดตั้งได้ตามเส้นทางที่ต้องการโดยไม่ต้องใช้การตัดหรือดัดท่อให้ยุ่งยาก ท่อโค้งมักจะมีหน้าแปลน (Flange) เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อกับท่ออื่น ๆ หรืออุปกรณ์ในระบบ ท่อโค้งที่ใช้ในงานประปามักมีการออกแบบให้มีความทนทานต่อแรงดันและการกัดกร่อน
ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
มอก.918-2535 สำหรับท่อเหล็กหล่อเทา
มอก.2253-2548 สำหรับท่อเหล็กหล่อแกรไฟต์กลม
ซึ่งการรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าท่อโค้งเหล่านี้สามารถใช้งานในระบบส่งน้ำที่ต้องการคุณภาพและความปลอดภัยสูงได้
วัสดุ
1. วัสดุเหล็กหล่อเทา (Cast Iron)
เหล็กหล่อเทาเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการผลิตท่อโค้งเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อนและสึกหรอได้ดี โดยภายในเนื้อเหล็กหล่อเทามีแกรไฟต์ที่ช่วยลดแรงกระแทก ทำให้วัสดุนี้ทนต่อการแตกหักได้ดีเมื่อเทียบกับโลหะอื่น ๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีความชื้นสูงหรือในระบบน้ำที่ต้องการความทนทาน เหล็กหล่อเทายังมีความสามารถในการดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานในระบบที่มีการไหลเวียนของน้ำตลอดเวลา
ข้อดีของท่อโค้งที่ทำจากเหล็กหล่อเทาคือ สามารถรองรับการเปลี่ยนทิศทางของระบบท่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ลดทอนความแข็งแรงของวัสดุ ซึ่งส่งผลให้ระบบมีความปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
2. วัสดุเหล็กหล่อแกรไฟต์กลม (Ductile Iron)
เหล็กหล่อแกรไฟต์กลมมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าเหล็กหล่อเทาในด้านความยืดหยุ่นและความทนทานต่อแรงดึงและแรงดัด เนื่องจากโครงสร้างภายในมีแกรไฟต์ในลักษณะกลมซึ่งทำให้ท่อมีความแข็งแรงและสามารถรองรับแรงดันได้สูงกว่าวัสดุชนิดอื่น เหล็กหล่อแกรไฟต์กลมเหมาะกับการใช้งานในระบบน้ำที่มีแรงดันสูงหรือการใช้งานในสภาวะที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรุนแรง
ท่อโค้งที่ทำจากเหล็กหล่อแกรไฟต์กลมมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในด้านความทนทานต่อการสึกกร่อนจากของเหลว ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานและมีความปลอดภัยสูง เหมาะกับการใช้งานในระบบท่อส่งน้ำ